วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สี่สหายน่ารังเกียจ

     นานมาแล้วมีชายหนุ่ม 4 คนเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก ทั้งสี่คนต่างมีลักษณะที่แตกต่างกันไป คนหนึ่งนั้นศีรษะล้าน คนที่สองเป็นขี้กลาก คนที่สามเป็นขี้เรื้อน และคนสุดท้ายตาทั้งสองข้างนั้นฉํ่าแฉะไปด้วยขี้ตา  ทั้งสี่คนนี้ไม่ชอบทำงาน วันๆ เอาแต่เที่ยวเล่นสนุกไป จนคนในหมู่บ้านเริ่มเบื่อระอา ต่างปรึกษาหารือกันว่าพวกเราควรจะทำ อย่างไรดีเพื่อทำให้ทั้งสี่คนนี้เป็นคนดีขยันทำมาหากิน
     ขณะนั้นมีชายหนุ่มแต่งกายดีผ่านมาได้ยินเข้าจึงเสนอขึ้นว่า ให้พวกเขาไปที่นครแห่งโน้นสิ เขาเล่าว่า
ใครก็ตามที่ได้เดินทางไปถึงที่นั้นก็จะได้ในสิ่งที่ต้องการ ชาวบ้านคนหนึ่งจึงพูดว่าแล้วเราจะทำ อย่างไรให้ทั้งสี่คนเดินทางไปที่แห่งนั้นได้ ชายแปลกหน้าจึงบอกว่า
     "พวกเราทั้งหมู่บ้านก็เลิกพูดคุยและไม่ให้ความช่วยเหลือแก่คนเหล่านั้นลิ" 
     เมื่อชาวบ้านได้ฟังดังนั้นก็เห็นดีด้วยและเริ่มทำตามแผนที่ได้ คุยกันไว้ วันรุ่งขึ้นชายหนุ่มทั้งสี่คนเดินเข้าไปขออาหารกินกับชาวบ้านที่ ตนเคยได้รับความช่วยเหลือเสมอ แต่วันนี้ทั้งสี่คนกลับไม่ได้ข้าวกิน เลยตั้งแต่เช้าจนกระทั่งเย็น ชายที่มีลักษณะหัวล้านนั้นก็พูดกับเพื่อน ทั้งสามของตนว่า
     "เออนี่สองวันมานี้เราแทบไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ชาวบ้านที่ เคยให้ความช่วยเหลือเรานั้นก็ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเหมือนแต่ก่อน ถ้าเราทั้งสี่ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ นั้นเราทั้งสี่อาจจะต้องอดตาย เป็นแน่"      ชายที่เป็นขี้เรื้อนนั้นก็พูดขึ้นว่า 
     "เราควรจะไปที่นครแห่งโน้น " ชายเป็นขี้เรื้อนว่า
     "ที่นครแห่งโน้นมีอะไร จึงคิดว่าพวกเราทั้งสี่นั้นควรจะไป ที่นั่น” ชายขี้เรื้อนจึงเล่าว่า
     “วันนี้ข้าได้ยินชาวบ้านกลุ่มหนึ่งคุยกันว่าที่นครแห่งโน้นนั้นผู้ ใดที่เดินทางไปถึงจะได้ในลิ่งที่ต้องการ ข้าไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แต่ข้าว่ามันต้องเป็นที่ที่ดีแน่ๆ มันอาจจะทำให้เรามืที่ทำมา หากินและมีความเป็นอยู่ที่ดิขึ้นกว่านี้ก็เป็นได้" ชายทั้งสี่จึงตกลงใจว่า 
     "เราจะออกเดินทางไปที่นครแห่งโน้นกัน" 
     ระหว่างการเดินทางนั้นทั้งสี่ก็เที่ยวขออาหารกับเสื้อผ้าที่ใช้ แล้วของชาวบ้าน แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็มิสนใจที่จะให้ทาน ชายทั้งสี่ คนจึงเดินทางต่อไปเรื่อยๆ จนมาถึงท่าเรือข้ามฟากแห่งหนึ่งชายทั้งสี่ จึงเดินเข้าไปถามนายเรือว่า
     ‘‘ท่านนายเรือเราทั้งสี่คนต้องการที่จะไปนครนแห่งโน้นไม่รู้ว่า ท่านรู้จักนครแห่งโน้นหรือไม่’’
เมื่อนายเรือได้ฟังดังนั้นจึงได้บอกกับชายทั้งสี่คนว่า 
     “แค่ข้ามฟากนี้ไปก็ถึงแล้วท่านทั้งสี่ต้องการจะไปไหมล่ะ’’ ชายทั้งสี่จึงว่า 
     “ข้าทั้งสี่ต้องการจะไปนครแห่งโน้น’’.นายเรือจึงว่า 
     “เรือของข้านั้นบรรทุกคนได้แค่สี่คนรวมทั้งข้าซึ่งเป็นนายเรือ ด้วย แต่เมื่อพวกท่านทั้งสี่ต้องการที่จะไปกันให้หมดนั้นท่านทั้งหมด ก็ต้องถอดเสื้อผ้าออก และเมื่อลงเรือของข้าแล้วนั้นห้ามพูดห้าม
คุยกัน"
      ชายทั้งสี่จึงยอมตกลงเมื่อลงเรือแล้วชายทั้งหมดต่างเงียบสนิท จนนายเรือเริ่มเบื่อจึงพูดขึ้นว่า
     “เจ้าทั้งสี่เล่านิทานเป็นหรือเปล่า’'ชายทั้งสี่จึงว่า
     “เราทั้งสี่เล่านิทานเป็น ’’ชายศีรษะล้านจึงบอกว่า 
     “งั้นข้าขอเป็นผู้เล่าก่อน" ชายศีรษะล้านจึงเริ่มเล่าว่า
     “ขณะที่ข้ากำลังเดินทางมานั้นได้เห็นนกเป็ดน้ำตัวหนึ่งกำลังดำน้ำเพื่อหาอาหารกินอยู่’’
   เมื่อชายศีรษะล้านพูดแบบนั้นแล้วจึงท่าท่าคล้ายนกเป็ดนํ้า โดยการใช้มือควักนํ้าแตะตรงศีรษะของตนเองเพราะร้อนศีรษะ เมื่อนายเรือได้ฟังจึงหัวเราะชอบใจ ต่อมาชายที่เป็นขี้เรื้อนจึงพูดขึ้นว่า
     "คนต่อไปนั้นขอเป็นข้าเอง" ชายขี้เรื้อนเมื่อโดนแดดจึงเกิดอาการคันมาก ชายขี้เรื้อนจึง เริ่มเล่าว่า
     "ระหว่างที่ข้าเดินทางมานั้นเห็นสุนัขตัวหนึ่งลำตัวมีรอยด่าง ด่างทางนี้ ด่างทางนั้น"
     พูดพลางก็ลากมือเกาขี้เรื้อนไปมา นายเรือได้ฟังจึงหัวเราะ ด้วยความสบายใจ ทีนี้ชายหนุ่มที่เป็นขี้กลากก็เกิดอาการคันขึ้นมา บ้างจึงบอกว่า
     “คนต่อไปเป็นตาของข้าที่จะเล่านิทานให้ท่านฟัง ระหว่างที่ข้า เดินทางมานั้นข้าได้ผ่านตลาด ข้าได้เห็นปลาตัวหนึ่งจึงเดินเข้าไปถาม เพื่อที่จะซื้อมัน เมื่อถามราคา แม่ค้าบอกว่าปลาตัวนี้มีราคาแพงมาก”
นายเรือจึงถามว่า
     "เหตุใดปลาตัวนั้นมันถึงแพงมากเล่า"  นายขี้กลากจึงใช้มือทั้งสองประกบกันท่าเป็นปลาเพื่อที่จะเกา ขี้กลากที่มือนั่นเอง นายเรือรู้สึกชอบใจจึงหัวเราะออกมา นายเรือจึงถามนายตาแฉะว่า
     "ทำไมยังนั่งอยู่เฉยเพื่อให้แมลงหวี่ตอมตา ทำไมเจ้าจึงไม่ เสนอจะเล่านิทานเหมือนพวกเพื่อนของเจ้า’’ นายตาแฉะก็ว่า 
     "ข้าได้ฟังเพื่อนของข้าเล่าแล้ว ตัวข้านั้นก็เพียงแค่ร้องไชโย เท่านั้นก็พอ’'
     เมื่อนายตาแฉะพูดจบก็ตบมือแล้วร้องไชโย นายตาแฉะทำ อย่างนั้นก็เพราะเพื่อจะไล่ให้แมลงหวี่ที่ตอมตาของตนอยู่นั้นหนี ไป นายเรือได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกชอบใจเป็นอย่างมาก แล้วทั้งสี่ก็มาถึงฝัง เมื่อชายทั้งสี่มาถึงฝังแล้วก็ตั้งใจทำมาหากินเก็บเงินเก็บทอง และใน ที่สุดทั้งสี่ก็กลายเป็นเศรษฐีผู้มืคนนับหน้าถือตามากมาย