วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

นกแขกเต้าสองตัวพี่น้อง

     ครั้งกาลก่อนนั้นมีภูเขาลูกหนึ่งอยู่คั่นกลางระหว่างที่อยู่ของ พระฤๅษีและโจรป่า บนเขานั้นมีต้นไม้ใหญ่ซึ่งเป็นที่อยู่อาตัยของนกแขกเต้าสองตัวพี่น้องที่พึ่งฟักตัวออกมาจากไข่ พ่อแม่ของนกแขกเต้า จะคอยบินหาอาหารมาให้ลูกๆ กิน จนกระทั่งปีกของลูกนกเริ่มจะมี ขนอ่อนๆ เกิดขึ้น
     วันหนึ่งเกิดมีลมพายุพัดกระหนํ่ามาอย่างแรงทำให้ลูกนกแขก เต้าสองตัวพี่น้องหล่นจากรังแยกจากกันไปกันคนละทาง ตัวหนึ่งไป ตกที่อยู่ของพระฤๅษีส่วนอีกตัวไปตกอยู่ฝังโจร ตั้งแต่นั้นมานกแขกเต้า
ทั้งสองตัวก็เติบโตในสถานที่ที่ต่างกัน นกแขกเต้าที่อยู่กับพระ ฤๅษีนั้นถูกพระฤๅษีเลี้ยงมาอย่างนักปราชญ์ สอนความรู้ต่างๆ ให้ ส่วนนกแขกเต้าที่ถูกพัดไปตกที่ฝังโจรนั้นก็ถูกคั่งสอนในสิ่งที่ไม่ดี หรือสอนไปในทางที่เป็นพาล
   วันหนึ่งมีกษัตริย์แห่งเมืองคีรีเสด็จมาล่าสัตว์ในป่าครั้นเจอ ละมั่งตัวหนึ่งมีรูปร่างองอาจสวยงามจึงได้ติดตามไปแต่ก็ติดตามไม่ทัน พระองค์เสด็จไปตั้งที่ประทับที่ริมลำธารเพื่อจะติดตามละมั่งตัว นั้นต่อไปในวันรุ่งขึ้น ตกกลางคืนนกแขกเต้าที่อยู่กับพวกโจรก็บินออกมาเที่ยวเล่น และพบกับกษัตริย์เมืองคีรี จึงรีบบินไปบอกเจ้านายของมันที่อยู่ใกล้ๆ กับที่พักของกษัตริย์คีรี เจ้านกแขกเต้าพูดให้กับเจ้านายของ มันฟังว่า ฉันพบคนจำนวนหนึ่ง มีแก้วแหวนเงินทองและทรัพย์สิน ติดตัวมามากมาย พรุ่งนี้พวกเราไปจับชายคนนั้นมาฆ่าทิ้งเสีย และ นำแก้วแหวนเงินทองและทรัพย์สินทั้งหมดมาเป็นของพวกเรา ทหารรักษาความปลอดภัยได้ยินจึงนำความมาบอกกษัตริย์คีรี พระองค์ ทราบเรื่องเริ่มรู้สึกกลัวจึงสั่งให้ทหารเก็บข้าวของแล้วเดินทางออกไป จากป่าแห่งนี้โดยเร็ว ครั้นเดินทางไปต่อไปถึงที่พักของฤๅษีก็ได้พบนกแขกเต้าตัว หนึ่งร้องทักว่าท่านผู้เจริญทั้งหลายเมื่อท่านเดินทางมาถึงนี่แล้วขอ เชิญพวกท่านโปรดพักผ่อนอยู่ที่อาศรมแห่งนี้ก่อนเถอะเมื่อท่านทั้ง หลายหายเหนื่อยแล้วค่อยเดินทางไปต่อ เมื่อกษัตริย์แห่งเมืองคีรีได้ ฟังนกแขกเต้าพูดเช่นนี้ก็เล่าถึงนกแขกเต้าตัวหนึ่งที่อาตัยอยู่กับพวก โจรว่านกแขกเต้าตัวนี้มีจิตใจที่เหี้ยมโหดนัก นกแขกเต้าที่อยู่กับ พระฤๅษีก็พูดขึ้นว่า
     "อันที่จริงแล้วนกแขกเต้าที่อยู่กับพวกโจรป่านั้นคือพี่น้องของ ตัวฉันเอง เราทั้งคู่ได้ถูกพายุพัดกระหนํ่าแยกเราทั้งสองออกจากกัน ฉันมาตกอยู่ที่อาศรมพระฤๅษีแห่งนี้ ส่วนอีกต้วก็ไปตกอยู่ที่พักของโจร
นกแขกเต้าพูดต่อ
     “นกตัวนั้นไม่ใช่คนพาลโดยกำเนิด หากเกิดจากการอยู่กับคน ที่มีจิตใจเหี้ยมโหดต่างหากเล่าที่คอยสอนแต่ในเรื่องที่ไม่ดีให้ ส่วนตัว ฉันนั้นได้ตกมาอยู่ที่อาศรมของพระฤๅษี พระฤๅษีจึงสอนแต่เรื่องที่ อยู่ในทางคีลทางธรรมให้ ก็อย่างที่มีคนพูดว่า "คบคนพาล พาลพา ไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”
     เมื่อกษัตริยได้ฟ้งนกแขกเต้าพูดเช่นนี้ก็รู้สึกชอบใจในการพูดจา ของนกแขกเต้า จึงได้เชิญพระฤๅษีไปอยู่ที่บ้านเมืองคีรี แต่พระฤๅษี ก็ตอบปฏิเสธไปว่าเรานั้นละทิ้งซึ่งกิเลสแล้ว เราชินกับการที่อยู่ใน
กลางป่าเขา เมื่อกษัตริย์คีรีได้ฟังดังนั้นก็เข้าใจและขอลากลับบ้าน เมืองของตน