วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บุตรเศรษฐีกับนายพรานเนื้อ

     กาลครั้งหนึ่งมีบุตรของเศรษฐี 3 คน พ่อแม่ของพวกเขา เป็นเพื่อนรักกันมานาน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสามครอบครัวก็ ตกมาถึงรุ่นลูกของพวกเขา ลูกเศรษฐีคนแรกมีชื่อว่า นายมี ลูกเศรษฐีคนที่สองมีชื่อว่า นายมาก ส่วนลูกเศรษฐีคนที่สามนั้นมีชื่อว่า นายพร้อม ทั้งสามคนมีนิสัยแตกต่างกัน นายมีชอบเห็นคนที่ด้อย กว่าเป็นข้าของตนเพราะนายมีถูกเลี้ยงมาโดยที่พ่อแม่ไม่ยอมให้นายมี ทำอะไรเลย จะทำอะไรสักอย่างก็ให้คนใช้ทำให้ เพราะกลัวว่าลูกจะ เหนื่อย การพูดการจานั้นก็จะพูดแบบดูถูกเหยียดหยาม
คนที่มีฐานะ ตํ่ากว่า นายมากนั้นมีนิสัยขี้เกรงใจ ไม่กล้าที่จะทำอะไรด้วยตนเอง เวลาที่จะพูดกับใครก็จะติดนิสัยเรียกคนอื่นว่าพี่ชาย โดยที่ไม่รู้ว่าคน คนนั้นจะชอบหรือไม่ ส่วนนายพร้อมนั้นมีพร้อมทุกสิ่งทั้งกาย วาจา 
     วันหนึ่งทั้งสามคนได้ออกไปเที่ยวเล่นกัน และเห็นนายพราน กำลังเข็นเนื้อสัตว์ที่เขาจับได้ไปขายในเมือง นายมีจึงชักชวนเพื่อนทั้ง สองเล่นพนันกันว่า เราทั้งสามคนใครผู้ใดที่เดินเข้าไปขอเนื้อกับนาย พรานได้ผู้นั้นจะได้รับการยกย่องจากผู้ที่แพ้ ทั้งสามคนจึงตกลงกัน นายมีกล่าวขึ้นว่า
     "ข้าเป็นคนคิดเรื่องนี้ขึ้นก่อนควรจะให้ข้าเป็นคนเข้าไปพูดก่อน” นายมีเดินตรงเข้าไปหานายพรานแล้วพูดกับนายพรานว่า "เย้ย..ไอ้ขี้ครอก ตัวข้านั้นเป็นลูกเศรษฐีมีเงินมาก กูจะขอ แบ่งเนื้อสักชิ้นได้ไหม" เมื่อนายพรานฟังแล้วก็พูดกลับไปว่า
     "เมื่อท่านกล้าขอเราก็จะให้ แต่การพูดขอของสิ่งใดกับใครนั้น ช่างไม่ดีเอาเสียเลย ท่านคิดจะขอของจากข้าท่านก็ควรจะพูดจาให้ ไพเราะให้ดูน่าฟังเสียดีกว่า ’’ นายพรานจึงตัดเนื้อที่เน่าให้กับนายมี นายมีเดินหน้าจ๋อยกับ มาหาเพื่อนทั้งสอง นายมากพูดขึ้นว่า 
     "อ้าว ต่อไปตาของฉันบ้างละ" นายมากเดินไปที่นายพรานล่าเนื้อก็กล่าวขึ้นอย่างสุภาพว่า "พี่ชายเราขอเนื้อสักชิ้นได้หรือไม" นายพรานล่าเนื้อฟังคำขอของนายมากแล้วพูดขึ้นว่า 
     "อันตัวข้านั้นจำไม่ได้ว่ามีน้องชายตั้งแต่เมื่อไรและไม่คิดจะรับ ใครเป็นน้อง แตในเมื่อท่านพูดกับเราดีเช่นนื้เราก็จะแบ่งเนื้อให้ อ้าว เราให้เนื้อตรงขาไป’’ เมื่อนายมากได้ฟังนายพรานพูดเช่นนั้นก็หน้า แตกกลับมา
     ส่วนนายพร้อมก็เดินเข้าไปหานายพรานคนนั้นแล้วพูดว่า “เพื่อนยากเราขอเนื้อสัตว์สักชิ้นได้หรือไม่"
นายพรานฟังนายพร้อมพูดเช่นนั้นก็ร้สึกถูกชะตาในคำพูด ของนายพร้อมจึงบอกกับนายพร้อมว่า
     “ข้าให้ท่านทั้งหมดนี่เลยสหาย บ้านเจ้าอยู่ไหนล่ะข้าจะไปส่งให้ถึงบ้าน” นายพร้อมได้ฟังดังนั้นก็แปลกใจจึงถามกลับไปว่า 
     “ทำไมท่านถึงให้เรามากเช่นนี้ล่ะ” นายพรานจึงตอบว่า
     "โดยปกติแล้วบ้านใครที่ไม่มีเพื่อนนั้น บ้านเขาคือบ้านป่าที่ไร้ มนุษย์ดีๆ นั่นเอง”
     เมื่อนายพร้อมได้ฟังดังนั้นจึงซักชวนนายพรานไปยังที่บ้านของ ตน และให้ทุนนายพรานประกอบอาชีพอื่นที่ไม่ต้องไปส่าลัตว์ นายพรานผู้นั้นก็ขยันทำมาหากินอดออมจนทำให้ปัจจุบันนี้กลายเป็น เศรษฐีคนหนึ่ง