วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เจ้าชายกำพร้า

     ณ เมืองพาราณสีมีกษัตริย์พระองค์หนึ่งเป็นที่รักใคร่ของประชาชน ข้างกายพระองค์มีมเหสีซึ่งเป็นที่รักยิ่งอยู่เคียงข้าง จนกระทั่งเมื่อพระมเหสีได้ทรงคลอดเจ้าชายน้อยออกมา อยู่มาไม่นาน พระมเหสีก็สินพระชนม์ ด้วยความโศกเศร้าเสียใจพระองค์ก็เลย ทุ่มเทความรักให้กับเจ้าชายน้อย แทนพระมเหสีที่จากไป
   กษัตริย์พาราณสีได้ทรงอภิเษกสมรสใหม่กับหญิงสาวต่างเมือง และแต่งตั้งให้เป็นสนมเอก สนมเอก
คนนี้มีลูกติดมา 1 คน ซึ่งลูก ติดของสนมเอกนั้นมีอายุเท่ากับเจ้าชายน้อยของกษัตริย์พาราณสี เจ้าชายน้อยเป็นที่รักใคร่ของเหล่าเสนาอมาตย์ทั้งหลายเพราะเจ้าชาย น้อยเป็นเด็กที่ฉลาด หัวไวและมีนิสัยที่โอบอ้อมอารี ส่วนสนมเอกจะลูกมีจิตใจที่ขี้อิจฉาริษยาจึงคิดแผนการกำจัดเจ้าชายน้อย ด้วยคิดว่าถ้าเจ้าชายน้อยยังอยู่ที่นี่ ภายภาคหน้าจะต้องได้เป็นใหญ่เป็นโต และได้สืบราชสมบัติแทนกษัตริย์พาราณสีเป็นแน่แท้  นางจึงคิดอุบายใช้เงินและอำนาจที่มีเสนอแก่โหรหลวง เพื่อทำนายดวงชะตาแก่เจ้าชายน้อยว่าเป็นตัวกาลกิณี เป็นผีปอบ ถ้าอยู่ในบ้านเมืองต่อไปก็จะทำให้บ้านเมืองล่มจม เมื่อโหรหลวงได้ฟังดังนั้นก็ตกปากรับคำ แผนการร้ายเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลาดึกสงัดพระสนมแน่ใจว่าทุกคนต่างหลับกันหมดแล้ว นางจึงนำเลือดไก่ไปทาปากกับมือของเจ้าชายน้อยและวางไว้บนตัวของเจ้าชายน้อย จากนั้นนางกกลับไปที่ห้องบรรทมปลุกพระสวามีขึ้นมาและกล่าวว่า
     “วันนี้หม่อมฉันได้ข่าวจากในเมืองมาวามีผีปอบอาละวาดและมีชาวเมืองพบเห็นหน้าตาของผีปอบตัวนั้นคล้ายกับเจ้าชายน้อย"  ด้วยความรักของกษัตริย์พาราณสีที่มีต่อเจ้าชายน้อยก็เชื่อในคำของพระสนมเอก ทำให้เกิดปากเสียงกัน พระสนมเอกเลยให้พระองคไปดูให้เห็นกับตาว่าตนไม่ได้โกหก
     กษัตริย์พาราณสีได้เห็นเจ้าชายน้อยมืเลือดเปรอะเปื้อนตามร่างกายและมีใส้กองอยู่ข้างลำตัวก็ตกใจทรงให้ตามโหรหลวงมาทำนาย โหรหลวงซึ่งรับสินบนมาจากพระสนมเอกแล้ว ก็ทำนายเจ้าชายน้อยตามที่ได้ตกลงกันไว้ว่า
     “เจ้าชายน้อยมีผีปอบสิงอยู่ในตัว อนาคตถ้ายังอยู่ที่เมืองนี้ จะทำให้ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ สูญไป ต้องขับไล่ออกจากเมืองไปให้ไกล”
     เมื่อกษัตริย์ได้ฟังดังนั้นก็หลงเชื่อในคำทำนายสั่งให้เจ้าชายน้อยออกจากเมืองไป ด้วยความอาลัยรัก
เจ้าชายน้อยเดินทางรอนแรมไปในป่าโดยลำพัง ทั้งกลัวเสือกลัวผีป่า ด้วยความที่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตในป่ามาก่อนเลย เจ้าชายน้อยเดินทางไปจนถึงอาศรมของฤาษี ฤาษีเห็นเจ้าชายน้อยจึงให้เจ้าชายน้อยอาศัยอยุ่ด้วยและสอนวิชาอาคมต่างๆ ให้ วันหนึ่งฤาษีบอกให้เจ้าชายน้อยกลับไปบ้านเกิดของ และมอบธนูวิเศษให้ไว้ใช้ป้องกันตัว
     ระหว่างทางเจ้าชายน้อยได้พบกับลิงตัวหนึ่งอยุ่บนต้นไม้ เจ้าชายน้อยจึงจะใช้ธนูยิ่งเพื่อจะนำมาเป็นอาหาร แต่ลิงตัวนั้นพูดขึ้นว่า
     "อย่าฆ่าฉันเลย ฉันจะขอติดตามเจ้าชายไปทุกแห่ง" เมื่่อเจ้าลิงพูดดังนั้นเจ้าชายน้อยก็ให้ลิงตามไปด้วยต่อมาได้พบกับผีป่าตนหนึ่งจะเข้ามาทำร้าย เจ้าชายน้อยคว้าธนูขึ้นมาจะยิง เจ้าผีป่าเห็นว่าเป็นธนูวิเศษจึงกล่าวว่า
     “อย่าฆ่าฉันเลย ฉันขอติดตามท่านและจะคอยป้องกัน อันตรายต่างๆ ให้ท่าน" เมื่อเจ้าชายน้อยได้ฟังด้งนั้นก็ให้ผีป่าตามไปด้วย ตกกลางคืนก็มีผียักษ์ตนหนึ่งจะเข้ามาจับเจ้าชายน้อยกินเป็นอาหาร ผีป่าและเจ้าลิงจึงเข้าต่อสู้ป้องกันเจ้าชายน้อย ในที่สุดเจ้าชายน้อยก็ใช้ธนูวิเศษฆ่าผียักษ์ตนนั้นตาย
     ขณะนั้นเมืองพาราณสีได้ถูกโจรบุกปล้น เจ้าชายน้อยเดินทางมาถึงจึงเข้าไปช่วยปราบโจรโดยไม่บอกว่าเป็นใคร กษัตริย์พราณสีทราบเรื่องก็ให้อมาตย์เชิญตัวชายหนุ่มผุ้นั้นเข้ามา เมื่อทั้งสองพบเห็นหน้ากัน กษัตริย์พราณสีก็จำหน้าของเจ้าชายน้อยได้ ทั้งคู่ก็เข้าโอบกอดกัน เจ้าชายน้อยเล่าเรื่องราวความจริงทั้งหมดให้ฟัง กษัตริย์พาราณสีจึงสั่งให้คนไปจับสนมเอกและลูกไปขังไว้ ระหว่างนั้นเกิดเหตุอาเพศแผ่นดินแยกออกเป็นสองส่วนสูบพระสนมและลูกลงไป เจ้าเมืองพาราณสีมองด้วยความเวทนา จากนั้นเจ้าเมืองพาราณสีและเจ้าชายน้อย  ก็ครองเมืองอย่างมีความสุขตลอดไป