วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สอนให้ลูกเป็นโจร

     บ้านเศรษฐีใหญ่เมืองหนึ่งมีสองสามีภรรยาซึ่งเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน ทั้งสองไม่มีลูกให้คอยสืบทอดสมบัติจึงได้ไปบนบานสานกล่าวกับเทวดา อยู่มาวันหนึ่งภรรยาของเศรษฐีรู้สีกกระอักกระอวนเหมือนคนแพ้ท้อง ท่านเศรษฐีจึงสั่งให้คนรับไปตามหมอมาตรวจอาการของภรรยาท่านเศรษฐี ก็บอกว่าภรรยาของ ท่านนั้นได้ตั้งท้องมาเป็นเวลาสองเดือนแล้ว ท่านเศรษฐีได้รู้ดังนั้นก็ ดีใจอย่างยิ่ง สั่งให้หาของกินดีๆ มาบำรุงภรรยา ถ้าภรรยาสั่งไหนก็ให้หามาให้อย่าได้ขาด อยู่มาไม่นานภรรยาเศรษฐีก็

ลอดลูกออกมาเป็นผู้ชาย เศรษฐีดีใจเป็นอย่างมาก จึงจัดงานเลี้ยง คนทั้งหมู่บ้าน 3 วัน 3 คืน และตั้งชื่อให้ลูกชายว่า “สุข” เพราะเกิดมาก็ทำให้ครอบครัวมีความสุข
   เมื่อสุขอายุได้ 10 ขวบ ก็เริ่มมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย เริ่มขโมยของกิน เริ่มขโมยเงินพ่อแม่ เศรษฐีและภรรยารู้เข้าก็ไม่ต่อว่า อะไร กลับจะคอยตามใจลูกชายเสมอไม่เคยต่อว่าให้ขุ่นเคืองใจ จนกระทั่งนายสุขมีอายุได้ 20 ปี จากที่เคยขโมยเงินพ่อแม่ ขโมยอาหารกิน ก็กลายมาปล้นบ้านเศรษฐีที่อยู่หมู่บ้านอื่นๆ หรือปล้นชาวบ้านในหมู่บ้านนั้นด้วยความคะนอง เศรษฐีและภรรยาก็จะคอยช่วย ทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ลูกโดนจับ คอยหาเงินไปติดสินบนเจ้าหน้าที่ เป็นพยานเท็จยืนยันว่าวันเกิดเรื่องลูกชายอยู่กับตนที่บ้านบ้าง เป็นเช่นนี้ทุกครั้ง โดยที่ไม่เคยกล่าวตักเตือนลูก นับวันทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่ค่อยๆ หมดลงไป
นายสุขนิสัยเริ่มทำความผิดร้ายแรงขึ้น ครั้งนี้ถึงกับปล้นฆ่าผู้บริสุทธิ์ เมื่อกลับมาถึงบ้านท่านเศรษฐีรู้เรื่องก็ไม่ว่าลูกอีกและยังหาที่หลบซ่อนให้ จนทางการมีประกาศจับ นายสุขหลบช่อนตัวอยู่ได้ไม่นานก็ออกมาปล้นอีกจนถูกเจ้าหน้าที่จับได้ และถูกตัดสินประหาร ก่อนที่จะถึงวันประหารเศรษฐีและภรรยาก็มาเยี่ยมลูกชาย เห็นลูกชายติดคุกทั้งสองถึงกับร้องไห้เสียใจจนแทบจะขาดใจ นายสุข เห็นพ่อแม่ของตนร้องไห้จึงพูดขึ้นว่า
     "พ่อกับแม่จะมาร้องไห้ทำไม เพราะพ่อกับแม่นั่นแหละทำให้ฉันเป็นอย่างนี้ เมื่อฉันทำผิดพ่อกับแม่ไม่ห้ามไม่สอน คอยแต่ที่จะ ปกป้องฉันจนทำให้ฉันเป็นอย่างนี้’’   
     เศรษฐีและภรรยาได้ยินคำจากปากลูกก็เสียใจมากขึ้นแต่ก็ไม่อาจช่วยลูกชายได้ วันรุ่งขึ้นนายสุขก็ถูกคุมตัวไปประหารชีวิต